Last updated: 7 ต.ค. 2564 | 468 จำนวนผู้เข้าชม |
การฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตา ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นส่วนที่บอบบางและค่อนข้างสำคัญ เพราะอยู่ใกล้ดวงตาที่สุด จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งการฉีดถุงใต้ตาไม่สามารถทำได้ทุกคน ต้องให้แพทย์เป็นคนประเมิน
ส่วนใหญ่แล้วถุงใต้ตาที่ไม่นิยมฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นถุงใต้ตาที่มีไขมันนูน เวลายิ้มจะเห็นเป็นก้อนเป็นลูกปูดขึ้นมาชัดเจน ซึ่งหากเราฉีดฟิลเลอร์เข้าไปจะยิ่งทำให้เห็นถุงใต้ตาชัดขึ้นและอาจจะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน กรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการดูดไขมันถุงใต้ตาแทนจะเป็นวิธีที่เหมาะสมมากกว่า ซึ่งควรให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการแก้ไขถุงใต้ตาเป็นผู้ประเมินการรักษาจะดีที่สุด เพราะการมองแค่ภายนอกอาจจะไม่สามารถประเมินการรักษาได้ ต้องตรวจหลายๆอย่างประเมินร่วมด้วย
หากเราประเมินแล้วว่าสามารถฉีดถุงใต้ตาได้ แล้วควรจะฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณเท่าไหร่ดี
ส่วนใหญ่ทั่วไปแล้วจะพบว่าแพทย์จะแนะนำให้ฉีดแค่เพียงประมาณ 1-2 cc ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังสภาพร่างกายของคนๆนั้นด้วย ซึ่งการฉีดถุงใต้ตานี้จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ฟิลเลอร์ก็จะสลายไปตามธรรมชาติ ระยะแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยเช่นกัน
ข้อดีที่ควรฉีดถุงใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ ก็เหมือนเป็นการเติมเต็มคอลลาเจนให้กับผิว เพื่อให้บริเวณนั้นมีความเต่งตึง ดูชุ่มชื้นสุขภาพดี อีกทั้งยังสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดใต้ดวงตา ลดรอยหมองคล้ำ ให้ใต้ตาที่โทรมกลับมามีชีวิตชีวา ช่วยแก้ไขริ้วรอยร่องลึกที่เกิดขึ้นใต้ดวงตา ให้กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นอกจากจะช่วยเรื่องผิวเต่งตึง ลดริ้วรอยแล้ว ผลข้างเคียงที่ได้จากฟิลเลอร์ก็คือ สารตัวนี้จะไปช่วยกักเก็บน้ำบริเวณใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวบริเวณนั้นชุ่มชื้น ดูมีน้ำมีนวล ทำให้ดูเหมือนผิวยังอ่อนเยาว์ สดใส อยู่เสมอนั่นเอง
1 ม.ค. 2567
23 มิ.ย. 2567
1 ม.ค. 2567