Last updated: 16 ม.ค. 2565 | 551 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัญหาใต้ตาคล้ำเป็นหนึ่งในปัญหาบนใบหน้าที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดได้ขึ้นกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สร้างความปวดใจให้หลายๆคน เพราะทำให้ใบหน้าดูโทรม ล้า ไม่สดใส และแก่กว่าวัย
ปัญหาใต้ตาคล้ำเกิดจากอะไร?
ปัญหาใต้ตาคล้ำเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่จัด ดื่มเหล้าจัด อาการแพ้และอักเสบต่างๆ พักผ่อนน้อย เครียด โดนแดดมากเกินไป กรรมพันธุ์ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำเบื้องต้น
1.พยายามอย่าเครียดมาก เพราะจะส่งผลให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความไม่สมดุล สิ่งที่ตามมาคือร่างกายจะดูโทรมลง สุขภาพจะแย่ลง โอกาสที่ใต้ตาจะคล้ำก็มีมากขึ้น
2.ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อไม่ให้รังสียูวีทำลายผิวใต้ตาจนเกิดความหมองคล้ำ
3.พยายามลด ละ เลิกเหล้าและบุหรี่ให้ได้ เพราะนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณดูหมองลงได้
4.สำหรับคนที่ทำงานไม่เป็นเวลา ตารางงานไม่แน่นอน อย่างน้อยก็ควรหาเวลานอนหลับพักสายตาให้ได้มากที่สุด ให้ดวงตาได้พักผ่อนบ้าง โดยเฉพาะใครที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ติดกันเป็นเวลานาน การเพ่งจอมากเกินไปก็ทำให้ใต้ตาคล้ำได้
5.ใช้อายครีมทาบำรุงผิวรอบดวงตา ก็ช่วยลดความหมองคล้ำได้
6.ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกหมู่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ใบหน้าและผิวพรรณดูสดใส ไม่หมองคล้ำ
7.ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดรอยคล้ำรอบดวงตาไปก่อน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำ
หลายคนอาจเคยได้ยินการฉีดใต้ตาคล้ำมาแล้ว และสงสัยว่ามันแก้ได้จริงหรือไม่ คำตอบคือ…แก้ได้จริง โดยฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจะแก้ปัญหาผิวหนังรอบดวงตาได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเบ้าตาลึก ผิวหนังรอบดวงตาเหี่ยวย่น ใต้ตาคล้ำ ผิวหนังรอบดวงตาดูล้า ฯลฯ โดยจะเห็นผลทันทีหลังฉีด
สำหรับใครที่มีปัญหารอบดวงตาคล้ำ ปรับการใช้ชีวิตสารพัดวิธีแล้วก็ยังไม่หายเสียที แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ความงาม โดยอย่าลืมเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีทะเบียนรับรองถูกต้องเท่านั้น เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าแพทย์มีความเชี่ยวชาญจริงๆ
การฉีดใต้ตาคล้ำนั้นปลอดภัยแน่นอน หากเราทำตามคำแนะนำข้างต้น เช็คข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด เพราะปัจจุบันมีคลินิกและโรงพยาบาลเถื่อนจำนวนมากที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมให้คนไข้ ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมนั้นอันตรายมากเนื่องจากสารอันตรายเหล่านี้จะคั่งข้างเป็นก้อนอยู่บริเวณใต้ดวงตา ทำให้บวม เจ็บ เกิดการอักเสบได้ บางรายถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว
1 ม.ค. 2567
1 ม.ค. 2567
23 มิ.ย. 2567