Last updated: 13 ก.พ. 2565 | 372 จำนวนผู้เข้าชม |
หากคุณมีถุงใต้ตาและต้องการกำจัดด้วยการฉีดถุงใต้ตา หรือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เราอยากให้คุณอ่านเนื้อหาต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจเพราะเชื่อว่าจะมีประโยชน์มากๆ ฉีดถุงใต้ตา คือ การฉีดสารไฮยาลูรอนิก แอซิดเข้าไปเพื่อกำจัดถุงใต้ตาโดยเฉพาะ แม้หัตถการนี้จะไม่มีอันตรายแต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรรู้ ในขณะเดียวกันก็มีข้อห้ามที่ไม่ควรทำเพราะมีอันตรายอย่างมาก
ฉีดถุงใต้ตา มีข้อควรรู้และข้อห้ามอย่างไร
1.ฉีดถุงใต้ตาเหมาะกับถุงใต้ตาแบบไหน ถุงใต้ตาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ถุงใต้ตาแท้และถุงใต้ตาเทียม ฉีดถุงใต้ตาเหมาะกับการฉีดเพื่อกำจัดถุงใต้ตาแท้ ซึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือความผิดปกติของต่อมไร่ท่อ ทำให้ของเหลวและต่อมไขมันมารวมตัวกันที่บริเวณใต้ตา จนเกิดการป่องนูนขึ้น ส่วนถุงใต้ตาเทียมนั้นเกิดจากพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การขยี้ตา การใช้สายตาหนัก ร้องไห้บ่อย เป็นต้น
2.ฉีดถุงใต้ตาบวมกี่วัน หลังจากฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมเกิดขึ้นเล็กน้อย บางคนอาการวบวมลดลงประมาณ 2-3 วัน แต่สำหรับคนผิวบวมง่ายอาจพบอาการบวมประมาณ 5-7 วัน
3.ฉีดถุงใต้ตามีข้อเสียไหม ของเสียของการฉีดถุงใต้ตา คือ ไม่สามารถกำจัดถุงใต้ตาได้แบบถาวร ฟิลเลอร์จะย่อยสลายไปเอง ส่วนฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
4.ปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดอย่างไร ก่อนฉีดควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ งดใช้ยาแอสไพรริน งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิว หากมีโรคประจำตัวให้ปรึกษาแพทย์ก่อน งดกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม.หลังฉีดหลีกเลี่ยงการแกะ เกา บริเวณที่ฉีด ไม่ควรประคบเย็น งดทาครีมตรงรอยเข็ม 1 คืน งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดการนวดหน้าและการเลเซอร์ร้อนลงชั้นผิว
5.อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดถุงใต้ตา หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด งดอาหารหวานจัดและหลีกเลี่ยงการทานของดิบ โดยให้งดหรือหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว 14 วัน ซึ่งหมอจะแนะนำให้ลดอย่างน้อย 3 วัน
ทั้งหมดนี้ ก็คือ ฉีดถุงใต้ตามีข้อควรรู้และมีข้อห้ามอะไรบ้าง หวังว่าที่เราหยิบยกข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอจะพอเป็นแนวทางให้คุณได้ศึกษาและมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะไปฉีดถุงใต้ตา สำคัญที่สุดเลยเพื่อความปลอดภัยอย่าเห็นแก่ของถูก เลือกคลินิกที่เชื่อถือได้เท่านั้น
1 ม.ค. 2567
1 ม.ค. 2567
23 มิ.ย. 2567